สวัสดีครับท่านผู้อ่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Mr.Clippac วันนี้..กับหัวข้อ “ของหวาน..กินอย่างไรไม่ให้ลงพุง?”
มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อชื่อมันก็บอกอยู่ว่าคือของหวาน ที่กินเข้าไปยังไงก็อ้วนแน่ๆ จะว่าอย่างนั้นก็ถูกครับ..แต่ไม่ถูกต้องที่สุด จริงอยู่หากคุณกินของหวาน หรือ ขนม ที่มีส่วนประกอบไปด้วยน้ำตาลและแป้งในปริมาณมากๆ ยิ่งกินมากยิ่งสะสมมาก ยิ่งกินมากยิ่งอ้วนตามไปด้วยนั่นเอง ฉะนั้น หากคุณได้ลองทำตามในบทความที่ผมเขียนขึ้นมานี้ดูล่ะก็ ผมรับรองได้เลย คุณจะไม่มีวันอ้วนเผละแน่นอน
ถ้าให้นึกถึงสิ่งที่สร้างความสุขให้คุณได้ อันดับต้นๆที่นึกถึงคงเป็นของหวานใช่มั้ยล่ะครับ และสถานที่ยอดนิยมในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น ร้านสไตล์ Dessert Cafe หลากหลายทั่วทุกสารทิศตามห้างสรรพสินค้า ที่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็มีร้านต่างๆมากมายพร้อมเสริฟความหวานให้คุณได้สดชื่น ทั้งยังให้คุณแชร์ อวดเพื่อนๆบนโซเชียลมีเดียกันอย่างสนุกเลยทีเดียว
ขนมหวาน อาทิเช่น บิงซู ฮันนี่โทสต์ ซูครีม ฯลฯ ประกอบไปด้วย แป้ง น้ำตาล ไขมัน นม เนย แน่นอนพลังงานที่ได้เมื่อคุณกินเข้าไป มันโคตรเยอะ..เทียบกันง่ายๆอาจจะพอๆกับอาหารมื้อหลัก 2-3 มื้อ เลยทีเดียว ซึ่งถ้าคุณชอบ และกินมันทุกวัน ร่างกายคุณก็จะทำงานหนัก แก่เร็ว รวมถึงข้อเสียต่างๆด้านสุขภาพก็จะตามมาได้ครับ
แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ? ถึงจะไม่ลงพุง จากการกินของหวาน.. ผมมีคำตอบ 5 ข้อ ที่เตรียมไว้ให้คุณ ตามไปอ่านกันครับ
1. รักที่จะกิน อย่าไปเครียด
หลายคนมักสำนึกผิด จิตตก เป็นกังวล หลังจากจบมื้อของหวานไปแล้ว ว่าไม่น่ากินเลย รู้อย่างนี้..ไม่กินเสียจะดีกว่า เพราะกลัวที่จะอ้วนขึ้น ใจเย็นๆครับ กินมื้อเดียวมันไม่ได้ทำให้คุณลงพุงรวดเร็วขนาดนั้น เช่นกันกับทานอาหารเพื่อสุขภาพในมื้อเดียวก็ไม่ได้ทำให้คุณผอมลงในทันทีด้วยเช่นกัน การจะมีพุง หรือ ลงพุง มันต้องใช้เวลา การทานบ่อยๆ ทานแบบไม่บันยะบันยังต่างหาก ที่จะทำให้มีไขมันสะสมจนทำให้คุณลงพุงได้ ฉะนั้น อย่าไปเครียด เพราะยิ่งเครียด..คุณก็ยิ่งกิน ทีนี้พุงก็จะตามมานั่นเองครับ
2. หาผู้ช่วย มาเป็นตัวหาร
มีเพื่อนฝูงมากมายในยามดี ไม่สู้มีเพื่อนตายเพียงคนเดียวในยามยาก คุณว่าจริงมั้ย? เมื่อยามยาก เอ๊ะ!! หรือยามอยากกันแน่ หากคุณอยากไปนั่งร้าน Dessert Cafe สไตล์เก๋ๆ แต่ไปคนเดียวอาจจะเป็นภาระต่อพุง ฉะนั้นหาตัวหารมาช่วยแชร์แคลอรี่ เพื่อความสบายใจ กินให้หายอยาก แบบไม่ลำบากพุง ลองคิดดู..จะดีแค่ไหน ถ้าบิงซูเกือบ 1,000 แคลอรี่ มีเพื่อนมาร่วมแจม เห็นมั้ยล่ะครับ เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องอดขนมที่อยากทาน แถมยังไม่ต้องจิตตกและเป็นกังวล กลัวที่จะลงพุงอีกด้วย
3. เหลือบ้างก็ได้ ไม่ต้องเสียดาย
กว่าจะหาเงินได้มันลำบากแค่ไหน จะให้กินทิ้งกินขว้างได้อย่างไร หากคุณคิดเช่นนี้และเหมาหมดเพราะความเสียดาย ทั้งที่คุณไม่อยากกินมันแล้ว ที่ลำบากกว่าการหาเงินก็คือสุขภาพของคุณเองยังไงหล่ะ สั่งมาแล้วแต่กินไม่หมด อย่าเสียดาย เหลือบ้างก็ได้ จะได้ไม่ลำบากตอนคิดจะลดพุง กินให้พอหายอยาก ถ่ายภาพแชร์ให้เพื่อนได้รับรู้ ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ
4. กินให้หายอยาก แล้วออกกำลังกาย
เวลาอยากกิน ก็ให้กินครับ อย่าอด ไม่เช่นนั้นวันนึงคุณอาจจะตบะแตก สติหลุด กินมันมากกว่าเดิมก็ได้ คิดให้ดีก่อนกิน ว่าตอนนี้คุณหิว หรือ คุณอยาก เพราะของหวานไม่ได้ทำให้คุณอิ่ม เพียงแค่จะทำให้คุณกินมากกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว หากคุณอยากกินของอ้วนๆ ก็กินไปเถอะครับ
แต่กินแล้วแบ่งว่ามาออกกำลังกายบ้าง อย่าเพิ่งเมินหน้าหนี สำหรับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย ผมไม่ได้ให้คุณหักโหม บ้าระห่ำวิ่งหลายๆชั่วโมง หรือเข้ายิมยกเวทหนักๆ เพื่อเอาขนมที่คุณเพิ่งกินออกจากร่างกาย ค่อยๆปรับ ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อให้ระบบเผาผลาญได้ทำงานบ้าง จะวิ่ง จะเดิน หรือ เดินวิ่ง กระโดดเชือก ว่ายน้ำ เอาง่ายๆตามสะดวกครับ
5. กินผัก เพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
หากคุณจัดหนักของหวานมา สิ่งที่คุณควรทำเมื่อกลับมาถึงบ้าน หรืออาจจะแวะซื้อติดมือกลับบ้าน…คือผักใบเขียว จริงๆมันมีอาหารอีกหลายอย่างที่จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้คุณได้ ..ทำไมเราต้องสนใจระดับน้ำตาลในเลือดด้วย? ง่ายๆครับ สมมติว่า เรากินอาหารถึงแม้จะไม่เกินแคลอรี่ แต่ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงในมื้อนั้น ก็จะทำให้คุณอ้วนลงพุงได้เหมือนกัน
ฉะนั้น ที่ผมบอกให้คุณกินผัก เพื่อเป็นการรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ให้เป็นปกตินั้นเอง และคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งอาหารเสริมใดๆให้เป็นภาระไตอีกด้วย เพราะผักใบเขียวแทบทุกชนิดอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเลือด และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดีอีกด้วยล่ะครับ
เรื่องคงความสดของผักใบเขียว ให้ Clip Pac..ช่วยคุณ
หากคุณมีปัญหาด้านการจัดเก็บอาหาร ที่ Clip Pac มีกล่องถนอมอาหารหลากหลายรูปแบบเตรียมไว้ให้คุณ หากคุณกังวลว่าผักที่คุณซื้อมาจะเหี่ยว หรือ ไม่สดแล้วล่ะก็ Clippac Glass Container เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ผักอยู่กับคุณได้นานขึ้น นอกจากนี้แล้ว ผักของคุณยังสะอาดไร้สารปนเปื้อน และยังคงคุณค่าทางโภชนาการอยู่ครบถ้วน ส่วนจะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างครับ
หวังว่าบทความที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองและคนที่คุณรักนะครับ
เขียนโดย : Mr.Clippac (Siriwut T.)
ภาพประกอบ : CC0 License & Clippac